ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

การสร้างสรรค์โครงการใหม่ของสมาคมการค้า

โครงการใหม่โครงการแรกที่ผมทำเมื่อครั้งที่เป็นกรรมการบริหารสมาคมร้านขายยา คือโครงการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการร้านยา หรือ Nano MBA by TPA

ตามแผนที่วางไว้ ในโครงการจะประกอบด้วย การสัมมนา, การรวมกลุ่มให้แน่นขึ้น และการเข้าสู่โอกาสธุรกิจใหม่ๆ เราจะก้าวข้ามเส้นแบ่งธุรกิจร้านขายยาออกไปข้างนอก

เราทำได้จริงแค่สองอย่าง เรายังไม่สามารถก้าวข้ามเส้นแบ่งนี้ได้ เรายังไม่สามารถจัดองค์การที่จะนำสมาชิกที่เกาะกลุ่มกันแล้ว

จาก #NanoMBA รุ่น 1 ผ่านไป 6-7 ปี จึงจะสามารถทำโครงการใหม่ คือ #สมุนไพรในร้านขายยา

ถ้ามองจากบริบทปัจจุบัน สู่อนาคต กิจกรรมใหม่ๆที่สร้างขึ้นนี้ ช้าเกินไป เมื่อคิดถึงว่า ทุกวันนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปเร็วมาก วงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ในท้องตลาดจะสั้นลงเรื่อยๆ เพราะมีของใหม่ออกมาทดแทนเร็วขึ้น

สองเดือนก่อน เรายังพูดออเจ้า นุ่งห่มสไบกันทั่วบ้านเมืองจากกระแส #บุพเพสันนิวาส แต่วันนี้ เหลือแค่โฆษณาไม่กี่เจ้าเท่านั้นที่ยังออเจ้าอยู่

เช่นเดียวกัน กิจกรรมที่ทำมา ในที่สุดก็จะไม่ได้รับความนิยม หาก #สมาคม หรือ #สมาคมการค้า ไม่สามารถสร้างกิจกรรมใหม่ออกมาตอบสนองสังคมและสมาชิกได้ ตามแนวโน้มของสภาพแวดล้อมที่มันเปลี่ยนแปลงเร็วขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุด สมาคมนั้นจะถูกสมาชิกทอดทิ้ง

เพราะสมาชิกเองในฐานะผู้ประกอบการ ก็ต้องพยายามตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนอย่างรวดเร็ว ส่วนลูกค้าเองก็ถูกชักจูงไปด้วยเทคโนยีที่เปลี่ยนเร็วขึ้นเรื่อยๆ หากสมาชิกปรับตัวไม่ทัน ธุรกิจของสมาชิกก็จะถูกลูกค้าทอดทิ้ง

ดังนั้น #สมาคม โดยเฉพาะ #สมาคมการค้า จึงต้องสนับสนุนสมาชิกด้วยกิจกรรมใหม่ๆ ที่มุ่งไปตามแนวโน้ม เราอาจต้องทำใจว่า กิจกรรมใหม่ของเราอาจจะดังเป็นพลุแตกสว่างวาบไปทั่ว แต่อาจคงอยู่แค่วูบเดียวก่อนจะร่วงจากฟ้า กิจกรรมแบบคิดทีเดียวอยู่ได้ดีๆเป็นสิบปี อาจทำได้ยากขึ้น

ในอนาคต เราต้องเร่งกระบวนการสร้างกิจกรรมใหม่ออกมา ประเภทที่ว่า 6 ปี ค่อยเกิดโครงการใหม่ น่าจะไม่ทัน

#บริหารสมาคมการค้า

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

6 แหล่งรายได้ของสมาคม

สมาคมการค้าส่วนใหญ่มีปัญหาเรื่องขนาดงบประมาณที่จะใช้ในการผลักดันกิจกรรมของสมาคม ครั้นจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มจากสมาชิก สมาขิกก็มักจะไม่ยินยอมให้เก็บเพิ่ม สมาคมการค้าจึงมักจะต้องใช้วิธีปรับลดกิจกรรมตามแผนงานลง ปัญหาเช่นนี้มักเกิดขึ้นกับองค์การที่ไม่หวังผลกำไรอื่นประเภทที่เน้นบทบาทของสมาชิกด้วย อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาดีๆ สมาชิกไม่ใช่แหล่งรายได้เดียวของสมาคมการค้า เมื่อจำแนกรายได้ของสมาคม จากเจ้าของเงิน เราสามารถแบ่งได้เป็น 1.สมาชิก :  สมาชิกเป็นแหล่งรายได้แรกๆที่สมาคมจะคิดถึง อย่างไรก็ตาม สมาคมสามารถได้รับรายได้จากสมาชิก ไม่เพียงแต่ในรูปแบบของค่าธรรมเนียมเท่านั้น สมาคมยังสามารถสร้างสรรค์บริการอื่นที่ตรงใจสมาชิก เพื่อรับค่าบริการเป็นการตอบแทน เช่นการอบรมเพื่อเพิ่มศักยภาพของสมาชิก, การจัดกิจกรรมเพื่อสร้างโอกาสทางการตลาดแก่สมาชิก เป็นต้น 2.ภาครัฐ :  องค์การไม่หวังผลกำไร เกิดขึ้นจากการที่รัฐบาลไม่สามารถดูแลงานภาคสังคมได้ทั่วถึง จึงเกิดการรวมตัวกันของชุมชนเข้ามาช่วยจัดการแทนภาครัฐ ดังนั้นภาครัฐจึงสนับสนุนงบประมาณและอื่นๆ เป็นการตอบแทนการทำหน้าที่แทนรัฐบาลขององค์การไม่แ...

ยามวิกฤต อย่าลืมทบทวนแหล่งรายได้ของสมาคมด้วย ว่ายังมีอยู่จริงหรือไม่

สมาคมต่างๆ เป็นหน่วยงานไม่หวังผลกำไร นั่นหมายถึง กิจกรรมหลักของแต่ละสมาคม ไม่ได้ทำขึ้นเพื่อหวังผลกำไร หรือความมั่งคั่ง แต่รายรับก็เป็นสิ่งสำคัญของแต่ละสมาคม แม้แต่สมาคม หรือมูลธินิที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการให้ก็ตาม 🔴  อย่าลืมว่า สมาคมเองก็มี Fixed Cost ของตัวเอง  🔴 ในเหตุการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 นอกจากกระทบต่อการประกอบการของภาคธุรกิจ เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปสู่ New Normal แล้ว ยังอาจมีผลกระทบต่องบประมาณด้านรายรับของแต่ละสมาคมด้วย ลองทบทวนแหล่งรายรับของสมาคมดูว่า ในรายรับแหล่งต่างๆ อาจได้รับผลกระทบหรือไม่ อย่างไร ตัวอย่างเช่น 1. ค่าธรรมเนียมสมาชิก COVID-19 ทำให้ผู้ประกอบการในหลายๆธุรกิจต้องหยุดการดำเนินการ เช่น กลุ่มโรงแรม กลุ่มการท่องเที่ยว ถ้าสมาชิกของสมาคมของคุณอยู่ในกลุ่มเหล่านี้ เป็นไปได้ว่า สมาชิกหลายรายอาจเลิกกิจการไป ซึ่งก็จะส่งผลกระทบต่อค่าธรรมเนียมสมาชิกของสมาคมที่จะลดลง 2. การสนับสนุน หลายสมาคมมีสื่อของตัวเอง เช่น วารสาร เวบไซต์ สำหรับสื่อสารถึงสมาชิก และในสื่อนี้ สมาคมสามารถแทรกข่าวสารที่เป็นโฆษณาไปด้วย เพื่อแลกกับการสนับสนุน ซึ่งรายได้ส...

ภาษีเงินได้ของสมาคม สมาคมการค้า และมูลนิธิ

มูลนิธิ สมาคม และสมาคมการค้า จัดเป็นองค์การไม่แสวงหากำไร แต่ไม่ถือว่าเป็นองค์การที่จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล จนกว่าจะได้รับการประกาศให้เป็นสถานสาธารณกุศลตามประมวลรัษฎากร มาตรา 47(7)(ข) องค์การไม่แสวงหากำไรที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่ไม่ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้เหล่านี้ ต้องเสียภาษีเงินได้ โดยคำนวณจากเงินได้ที่ได้รับก่อนหักค่าใช้จ่าย เนื่องจากองค์การเหล่านี้ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าไม่หวังผลกำไรอย่างหน่วยธุรกิจทั่วไป ด้งนั้น องค์การไม่หวังผลกำไรแม้จะมีรายได้ และรายจ่า ย แต่หลักในการคำนวณภาษีเงินได้ จะคำนวณจากฐานคือเงินได้ก่อนหักค่าใช้จ่ายใดๆ สำหรับอัตราภาษีขององค์การไม่หวังผลกำไรเหล่านี้ มีดังนี้ - กรณีเงินได้มาตรา 40(1)-(7) อัตราภาษีอยู่ที่ 10% ของเงินได้ - กรณีเงินได้มาตรา 40(8) เงินได้จากการพาณิชย์ อัตราภาษีอยู่ที่ 2% 🤞 🤞 🤞 ทั้งนี้ มีข้อยกเว้นไม่ต้องนำเงินได้มารวมคำนวณภาษีใน 3 กรณีคือ 1. ค่าธรรมเนียม หรือค่าบำรุงที่เก็บจากสมาชิก 2. เงินบริจาค 3. เงินได้โดยเสน่หา วางแผนการจัดตั้งสมาคมของคุณให้สอดคล้องกับภาระภาษีด้วยนะ จะได้มีเงินไว้สร้างกิจกรรมตามวัตถุประสง...