ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

แนวทางการทำงานร่วมกับอาสาสมัครของสมาคม


ปัญหาใหญ่ปัญหาหนึ่งขององค์การที่ไม่หวังผลกำไรก็คือ องค์การเหล่านี้ไม่มีเงินมากนักในการทำกิจกรรมเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ขององค์การ การใช้จ่ายเงินจึงต้องเป็นไปอย่างระมัดระวัง จะจ่ายเท่าที่จำเป็น เพื่อให้มีเงินเพียงพอในการผลักดันกิจกรรมสำคัญ
อีกทางเลือกหนึ่งขององค์การไม่หวังผลกำไร เช่น มูลนิธิ สมาคม สมาคมการค้า ที่จะผลักดันงานตามวัตถุประสงค์ อย่างประหยัดเงินก็คือ การใช้อาสาสมัครในการทำงาน
อาสาสมัครคือ พลังในการทำงานที่องค์การไม่ต้องจ่ายค่าแรง หรือจ่ายเพียงเล็กน้อย
การใช้งานอาสาสมัคร ถือว่าเป็นข้อดีที่เป็นจุดเด่นขององค์การที่ไม่หวังผลกำไร
เมื่อคุณใช้มืออาชีพในการทำงานให้กับธุรกิจ คุณต้องจ่ายค่าตอบแทนการทำงานให้กับมืออาชีพคนนั้น ยิ่งเก่งเท่าไหร่ คุณก็ต้องจ่ายมากขึ้นเท่านั่น
แต่ไม่ใช่กับองค์การที่ไม่หวังผลกำไร
หลายๆองค์การสามารถดึงดูดให้มืออาชีพเหล่านี้มาทำงานด้วย โดยที่มืออาชีพเหล่านี้ไม่ต้องการรับค่าตอบแทน ซึ่งมืออาชีพบางคน แม้ว่าธุรกิจจะยินดีจ่ายค่าตอบแทน ก็ไม่สามารถได้ร่วมงานด้วย แต่มืออาชีพเหล่านี้กลับเสนอตัวทำงานให้กับองค์การที่ไม่หวังผลกำไรบางแห่ง เป็นอาสาสมัคร ไม่ต้องการค่าตอบแทน
สาเหตุแรก นั่นเป็นเพราะความเป็นองค์การที่ไม่หวังผลกำไร และสาเหตุที่สองคือ เป็นองค์การที่มีเคมีตรงกันกับมืออาชีพเหล่านี้
อย่างไรก็ตาม ในบางกิจกรรมอาจต้องใช้อาสาสมัครจำนวนมาก  ซึ่งมากกว่าที่จะหามืออาชีพมาทำงานนี้ได้ องค์การที่ไม่หวังผลกำไร จะใช้วิธีการใช้มืออาชีพเหล่านี้ ฝึกอบรมอาสาสมัครที่มีคุณสมบัติใกล้เคียง ให้มีความสามารถเพียงพอที่จะทำงานได้

5 หลักการในการสร้างอาสาสมัครที่มีความรู้ขององค์การที่ไม่หวังผลกำไร
1. ระลึกไว้เสมอว่า อาสาสมัครเหล่านี้ จะเลิกทำงานเหล่านี้เมื่อใดก็ได้
2. มีระบบการคัดเลือก-บรรจุ อย่างรอบคอบ
3.สร้างระบบการเรียนรู้ และสอนงานอย่างต่อเนื่อง
4.ใช้การบริหารแบบเน้นวัตถุประสงค์ ให้อาสามัครกำกับตัวเอง
5.กระตุ้นให้อาสาสมัครคาดหวังจะได้รับมอบหมายความรับผิดชอบที่มากขึ้น

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

6 แหล่งรายได้ของสมาคม

สมาคมการค้าส่วนใหญ่มีปัญหาเรื่องขนาดงบประมาณที่จะใช้ในการผลักดันกิจกรรมของสมาคม ครั้นจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มจากสมาชิก สมาขิกก็มักจะไม่ยินยอมให้เก็บเพิ่ม สมาคมการค้าจึงมักจะต้องใช้วิธีปรับลดกิจกรรมตามแผนงานลง ปัญหาเช่นนี้มักเกิดขึ้นกับองค์การที่ไม่หวังผลกำไรอื่นประเภทที่เน้นบทบาทของสมาชิกด้วย อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาดีๆ สมาชิกไม่ใช่แหล่งรายได้เดียวของสมาคมการค้า เมื่อจำแนกรายได้ของสมาคม จากเจ้าของเงิน เราสามารถแบ่งได้เป็น 1.สมาชิก :  สมาชิกเป็นแหล่งรายได้แรกๆที่สมาคมจะคิดถึง อย่างไรก็ตาม สมาคมสามารถได้รับรายได้จากสมาชิก ไม่เพียงแต่ในรูปแบบของค่าธรรมเนียมเท่านั้น สมาคมยังสามารถสร้างสรรค์บริการอื่นที่ตรงใจสมาชิก เพื่อรับค่าบริการเป็นการตอบแทน เช่นการอบรมเพื่อเพิ่มศักยภาพของสมาชิก, การจัดกิจกรรมเพื่อสร้างโอกาสทางการตลาดแก่สมาชิก เป็นต้น 2.ภาครัฐ :  องค์การไม่หวังผลกำไร เกิดขึ้นจากการที่รัฐบาลไม่สามารถดูแลงานภาคสังคมได้ทั่วถึง จึงเกิดการรวมตัวกันของชุมชนเข้ามาช่วยจัดการแทนภาครัฐ ดังนั้นภาครัฐจึงสนับสนุนงบประมาณและอื่นๆ เป็นการตอบแทนการทำหน้าที่แทนรัฐบาลขององค์การไม่แสวงหากำไร

เหตุผลที่ภาครัฐนิยมติดต่อกับสมาคมการค้า

จุดเริ่มต้นของสมาคมการค้าจำนวนมาก มักก่อตัวจากกการมีความสนใจหรือปัญหาร่วมกัน จึงรวมตัวกันเป็นกลุ่มเครือข่าย หรือชมรมฯ และเมื่อผ่านการทำกิจกรรมติดต่อกับภาครัฐระยะหนึ่ง กลุ่มเครื่อข่ายนั้น มักได้รับคำแนะนำจากภาครัฐ ให้ดำเนินการจัดตั้งเป็นสมาคมการค้า ในด้านหนึ่งก็เพื่อให้กลุ่มเครือข่ายนั้นมีตัวตนตามกฏหมายเป็นนิติบุคคลหนึ่งที่ภาครัฐจะติดต่อทำธุรกรรมได้เป็นกิจจะลักษณะ อย่างไรก็ตาม ยังมีเหตุผลอื่นอีก โดยเฉพาะสมาคมการค้าที่ผ่านการจัดตั้งระยะหนึ่ง มีกลไกการทำงานของตัวเองแล้ว และนี่คือเหตุผลที่ภาครัฐนิยมในการติดต่อกับสมาคมการค้า 👉 เป็นตัวแทนของหน่วยจ้างงานของประเทศ สมาคมการค้าเป็นตัวแทนของสมาชิกผู้ประกอบการ ที่เป็นหน่วยย่อยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการจ้างงานทั่วไป จึงมีผลต่อเศรษฐกิจของประเทศ ในขณะที่รัฐบาลต้องการส่งเสริมธุรกิจ ให้มีการลงทุน ให้เกิดการจ้างงาน ประชาชนมีงานทำ มีการใช้จ่าย ธุรกิจจึงจะดำเนินต่อไปได้อันเป็นที่มาของภาษีที่รัฐจัดเก็บ ภาครัฐจึงอาศัยสมาคมการค้าที่เป็นตัวแทนผู้ประกอบการ เป็นช่องทางหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจตามนโยบายของภาครัฐได้ 👉 เป็นคู่เจรจาที่น่าเชื่อถ

แนวทางในการพัฒนาสมาคมการค้า

สมาคมการค้า จัดเป็นองค์การที่ไม่หวังผลกำไร ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการประกอบการของสมาชิก อย่างไรก็ตาม คุณค่าของสมาคมการค้า มิได้มีเพียงต่อผู้ประกอบการเท่านั้น สมาคมการค้ายังมีความรับผิดชอบต่อสังคม สมาคมการค้าจึงต้องจัดสมดุลระหว่างประโยชน์ของสมาชิกและสังคมส่วนรวมด้วย เพราะสังคมส่วนรวมก็คือลูกค้าของสมาชิก คือสภาพแวดล้อม หรือระบบนิเวศน์ของการประกอบการของสมาชิก แม้ว่าสมาชิกแต่ละรายอาจมิได้คำนึงถึง แต่สมาคมการค้าต้องคิดถึงผลกระทบเหล่านี้ด้วย กรรมการสมาคมการค้า จึงต้องมองภาพใหญ่กว่าสมาชิกแต่ละราย ต้องมองให้เห็นถึงระดับมหภาค นอกจากนี้ ภาครัฐนิยมขับเคลื่อนนโยบาย หรือโครงการบางอย่างผ่านสมาคมการค้า เพราะสมาคมการค้าเป็นการรวมตัว และเป็นตัวแทนของเอกชนที่เป็นผู้ประกอบการ อย่างไรก็ตาม ในหลายๆครั้ง หลายๆโครงการที่ไม่ประสบความสำเร็จ สาเหตุหนึ่งมาจากปัญหาเรื่องความไม่เข้มแข็งของสมาคมการค้านั้น ความเข้มแข็งของสมาคมการค้า สะท้อนออกมาในรูปของการจูงใจให้สมาชิกกระทำการบางอย่าง ที่สมาชิกไม่ยอมกระทำในสถานการณ์ปกติ หากสมาคมการค้าไม่เข้มแข็งเพียงพอ ก็ไม่สามารถชักจูงสมาชิกให้ทำเรื่องยากๆ การพัฒ