ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

พันธกิจ : ต้นทางของความสำเร็จของสมาคม

การกำหนดพันธกิจที่ชัดเจนและเหมาะสม เป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในการบริหารสมาคม
พันธกิจ คือคำแถลงความมุ่งประสงค์ขององค์การ ซึ่งพันธกิจที่ดีควรชี้นำการกระทำขององค์การ ขยายความเป้าหมายโดยรวมทั้งหมด จัดเตรียมหนทางและชี้นำการตัดสินใจ พันธกิจเป็นการจัดเตรียม "ข่ายงานหรือบริบทภายในแผนกลยุทธ์ของบริษัทที่ได้กำหนดไว้
องค์ประกอบที่ควรมีในพันธกิจของสมาคม ประกอบด้วย
- กลุ่มเป้าหมายที่สมาคมต้องการจะสร้างประโยชน์ให้ การกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน ทำให้สามารถกำหนดคุณค่าที่จะส่งมอบให้ตรงความต้องการ และวิธีการเข้าถึงที่มีประสิทธิภาพ กลุ่มเป้าหมายของสมาคมมักเป็นสมาชิก แต่ถ้าระบุกลุ่มเป้าหมายด้วยคำแสดงคุณลักษณะของสมาชิก จะทำให้สมาคมสามารถขยายฐานสมาชิกออกไปได้มากกว่า
- คุณค่าที่ส่งมอบ เป็นการระบุว่ากลุ่มเป้าหมายจะได้รับประโยชน์อะไรจากการดำเนินการของสมาคม คุณค่าที่ชัดเจน นอกจากทำให้สมาชิกหรือกลุ่มที่สมาคมคาดหมายว่าจะเป็นสมาชิก จะทราบว่าจะสามารถคาดหวังอะไรจากการเป็นสมาชิกของสมาคมได้บ้าง ทั้งยังเป็นโจทย์ตั้งต้นของสมาคมในการสร้างโครงการหรือกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้คุณค่าที่จะส่งมอบนั้นผลิออกมาเป็นรูปธรรม
- วิธีการส่งมอบคุณค่า เป็นวิธีการที่สมาคมจัดสรรคุณค่านั้นให้แก่กลุ่มเป้าหมาย เป็นการขยายความของคุณค่าซึ่งเป็นนามธรรม
- ความแตกต่าง หากมีสมาคมอื่นที่ดำเนินกิจกรรมใกล้เคียงกับสมาคมของคุณ การระบุความแตกต่างจากสมาคมอื่น จะทำให้การดำเนินงานมีความแตกต่างที่ชัดเจนขึ้น

พันธกิจของสมาคม
สมาคมมีความแตกต่างจากองค์การทางธุรกิจซึ่งชัดเจนอยู่แล้วว่าหวังผลกำไร แม้ว่าสมาคมจะเป็นหน่วยงานไม่หวังผลกำไร แต่สมาคมก็ต้องการรายได้มาใช้จ่ายในการดำเนินการเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการก่อตั้งสมาคม การหวังพึ่งเพียงรายได้จากค่าธรรมเนียมสมาชิก ย่อมไม่เพียงพอกับกิจกรรมตามพันธกิจ ครั้นจะเพิ่มอัตราค่าธรรมเนียมจากสมาชิก ก็ย่อมไม่เป็นที่พอใจนัก พันธกิจในทางปฏิบัติของสมาคมส่วนใหญ่จึงแบ่งได้เป็นสองกลุ่มใหญ่คือ
1. พันธกิจที่สืบเนื่องจากวัตถุประสงค์ของสมาคม
2. พันธกิจที่เกี่ยวกับการหารายได้

 3 เงื่อนไขสู่การสร้างพันธกิจที่มีประสิทธิภาพของสมาคม
1. ความสอดคล้องกับโอกาส
2. ความสามารถของสมาคมที่สอดคล้องกับพันธกิจ
3. ความมุ่งมั่นของสมาคมที่จะผลักดันให้พันธกิจบรรลุผล

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

6 แหล่งรายได้ของสมาคม

สมาคมการค้าส่วนใหญ่มีปัญหาเรื่องขนาดงบประมาณที่จะใช้ในการผลักดันกิจกรรมของสมาคม ครั้นจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มจากสมาชิก สมาขิกก็มักจะไม่ยินยอมให้เก็บเพิ่ม สมาคมการค้าจึงมักจะต้องใช้วิธีปรับลดกิจกรรมตามแผนงานลง ปัญหาเช่นนี้มักเกิดขึ้นกับองค์การที่ไม่หวังผลกำไรอื่นประเภทที่เน้นบทบาทของสมาชิกด้วย อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาดีๆ สมาชิกไม่ใช่แหล่งรายได้เดียวของสมาคมการค้า เมื่อจำแนกรายได้ของสมาคม จากเจ้าของเงิน เราสามารถแบ่งได้เป็น 1.สมาชิก :  สมาชิกเป็นแหล่งรายได้แรกๆที่สมาคมจะคิดถึง อย่างไรก็ตาม สมาคมสามารถได้รับรายได้จากสมาชิก ไม่เพียงแต่ในรูปแบบของค่าธรรมเนียมเท่านั้น สมาคมยังสามารถสร้างสรรค์บริการอื่นที่ตรงใจสมาชิก เพื่อรับค่าบริการเป็นการตอบแทน เช่นการอบรมเพื่อเพิ่มศักยภาพของสมาชิก, การจัดกิจกรรมเพื่อสร้างโอกาสทางการตลาดแก่สมาชิก เป็นต้น 2.ภาครัฐ :  องค์การไม่หวังผลกำไร เกิดขึ้นจากการที่รัฐบาลไม่สามารถดูแลงานภาคสังคมได้ทั่วถึง จึงเกิดการรวมตัวกันของชุมชนเข้ามาช่วยจัดการแทนภาครัฐ ดังนั้นภาครัฐจึงสนับสนุนงบประมาณและอื่นๆ เป็นการตอบแทนการทำหน้าที่แทนรัฐบาลขององค์การไม่แ...

ยามวิกฤต อย่าลืมทบทวนแหล่งรายได้ของสมาคมด้วย ว่ายังมีอยู่จริงหรือไม่

สมาคมต่างๆ เป็นหน่วยงานไม่หวังผลกำไร นั่นหมายถึง กิจกรรมหลักของแต่ละสมาคม ไม่ได้ทำขึ้นเพื่อหวังผลกำไร หรือความมั่งคั่ง แต่รายรับก็เป็นสิ่งสำคัญของแต่ละสมาคม แม้แต่สมาคม หรือมูลธินิที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการให้ก็ตาม 🔴  อย่าลืมว่า สมาคมเองก็มี Fixed Cost ของตัวเอง  🔴 ในเหตุการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 นอกจากกระทบต่อการประกอบการของภาคธุรกิจ เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปสู่ New Normal แล้ว ยังอาจมีผลกระทบต่องบประมาณด้านรายรับของแต่ละสมาคมด้วย ลองทบทวนแหล่งรายรับของสมาคมดูว่า ในรายรับแหล่งต่างๆ อาจได้รับผลกระทบหรือไม่ อย่างไร ตัวอย่างเช่น 1. ค่าธรรมเนียมสมาชิก COVID-19 ทำให้ผู้ประกอบการในหลายๆธุรกิจต้องหยุดการดำเนินการ เช่น กลุ่มโรงแรม กลุ่มการท่องเที่ยว ถ้าสมาชิกของสมาคมของคุณอยู่ในกลุ่มเหล่านี้ เป็นไปได้ว่า สมาชิกหลายรายอาจเลิกกิจการไป ซึ่งก็จะส่งผลกระทบต่อค่าธรรมเนียมสมาชิกของสมาคมที่จะลดลง 2. การสนับสนุน หลายสมาคมมีสื่อของตัวเอง เช่น วารสาร เวบไซต์ สำหรับสื่อสารถึงสมาชิก และในสื่อนี้ สมาคมสามารถแทรกข่าวสารที่เป็นโฆษณาไปด้วย เพื่อแลกกับการสนับสนุน ซึ่งรายได้ส...

ภาษีเงินได้ของสมาคม สมาคมการค้า และมูลนิธิ

มูลนิธิ สมาคม และสมาคมการค้า จัดเป็นองค์การไม่แสวงหากำไร แต่ไม่ถือว่าเป็นองค์การที่จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล จนกว่าจะได้รับการประกาศให้เป็นสถานสาธารณกุศลตามประมวลรัษฎากร มาตรา 47(7)(ข) องค์การไม่แสวงหากำไรที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่ไม่ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้เหล่านี้ ต้องเสียภาษีเงินได้ โดยคำนวณจากเงินได้ที่ได้รับก่อนหักค่าใช้จ่าย เนื่องจากองค์การเหล่านี้ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าไม่หวังผลกำไรอย่างหน่วยธุรกิจทั่วไป ด้งนั้น องค์การไม่หวังผลกำไรแม้จะมีรายได้ และรายจ่า ย แต่หลักในการคำนวณภาษีเงินได้ จะคำนวณจากฐานคือเงินได้ก่อนหักค่าใช้จ่ายใดๆ สำหรับอัตราภาษีขององค์การไม่หวังผลกำไรเหล่านี้ มีดังนี้ - กรณีเงินได้มาตรา 40(1)-(7) อัตราภาษีอยู่ที่ 10% ของเงินได้ - กรณีเงินได้มาตรา 40(8) เงินได้จากการพาณิชย์ อัตราภาษีอยู่ที่ 2% 🤞 🤞 🤞 ทั้งนี้ มีข้อยกเว้นไม่ต้องนำเงินได้มารวมคำนวณภาษีใน 3 กรณีคือ 1. ค่าธรรมเนียม หรือค่าบำรุงที่เก็บจากสมาชิก 2. เงินบริจาค 3. เงินได้โดยเสน่หา วางแผนการจัดตั้งสมาคมของคุณให้สอดคล้องกับภาระภาษีด้วยนะ จะได้มีเงินไว้สร้างกิจกรรมตามวัตถุประสง...