ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

3 ข้อดีของการใช้อาสาสมัครในสมาคม และองค์การไม่หวังผลกำไร


องค์การไม่หวังผลกำไร อย่างเช่น #มูลนิธิ #สมาคม #สมาคมการค้า มีจุดเด่นหนึ่งที่เหนือกว่าหน่วยธุรกิจ นั่นคือความสามารถในการใช้ประโยชน์จากอาสาสมัคร
อาสาสมัคร คือบุคลากรที่เป็นมืออาชีพในงานปกติที่อาสาสมัครเหล่านี้ทำงานเพื่อรับค่าตอบแทน แต่อาสาสมัครเหล่านี้กลับยินดีที่จะใช้ความรู้ความสามารถที่มี มาทำงานให้แก่องค์การไม่หวังผลกำไร โดยที่ค่าตอบแทนไม่ใช่ปัจจัยจูงใจ

3 ข้อดีของการใช้อาสาสมัครในองค์การไม่หวังผลกำไร

1.ลดภาระทางการเงิน
ปัญหาใหญ่เรื่องหนึ่งของหลายๆสมาคมการค้า นั่นคือความจำกัดของงบประมาณที่จะใช้ในการทำกิจกรรมตามวัตถุประสงค์ ในขณะที่มีกิจกรรมตามพันธกิจมากมายเหลือเกินที่ต้องทำ บ่อยครั้งที่ความไม่สัมพันธ์กันเช่นนี้ ทำให้สมาคมเหล่านี้ ต้องปรับลด หรือละทิ้งพันธกิจของตนเองไป
อย่างที่กล่าวข้างต้น อาสาสมัคร คือผู้ที่ต้องการอุทิศความรู้ความสามารถของตนเองให้กับการทำงานเพื่อส่วนรวม โดยที่เงินไม่ใช่ตัวตั้ง ดังนั้น สมาคม หรือองค์การที่ไม่หวังผลกำไรอื่นๆที่มองเห็นความจริงข้อนี้ และสามารถทำให้องค์การ เป็นที่สะดุดตาของอาสาสมัครเหล่านี้ ก็จะได้มืออาชีพมาร่วมงานแบบไม่เสียค่าตอบแทน หรือเสียไม่มาก อันเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายของสมาคมได้มาก

2.ภาพลักษณ์ของการเป็นที่ยอมรับ
ไม่ใช่ทุกสมาคม หรือทุกองค์การที่จะเป็นที่ต้องการร่วมงานของเหล่าผู้มีจิตอาสาเหล่านี้ จะมีก็เฉพาะแต่องค์การที่เป็นที่ยอมรับเท่านั้น ที่จะสามารถดึดดูดเหล่าอาสาสมัครให้มาร่วมงานด้วย
ดังนั้น หากองค์การใดที่สามารถดึงดูดเหล่าอาสาสมัครมาร่วมงานด้วย จะทำให้เป็นที่ยอมรับของกลุ่ม ของชุมชนที่สมาคม หรือองค์การนั้นเป็นตัวแทน หรือเกี่ยวข้อง การมีอาสาสมัครมาร่วมงานจึงเป็นการเสริมภาพลักษณ์ขององค์การ ให้เป็นที่ยอมรับในวงกว้างมากขึ้นอีกด้วย

3.ความหลากหลาย
อาสาสมัคร คือคนอีกกลุ่มหนึ่งที่มีมุมมองต่างไปจากบุคลากรภายในของสมาคม หรือองค์การฯ การเปิดพื้นที่ให้อาสาสมัครที่มีพื้นฐานที่หลากหลายเข้ามามีส่วนร่วม นอกจากจะมีพลังมากขึ้นแล้ว ยังทำให้กว้างขวางมากขึ้น จากความหลากหลายของอาสาสมัครที่เข้ามาร่วมงานอีกด้วย

สมาคม และองค์การไม่หวังผลกำไรอื่นๆ ไม่ควรละเลยการสร้างอาสาสมัครให้เป็นส่วนหนึ่งของแผน และโครงสร้างองค์การ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

6 แหล่งรายได้ของสมาคม

สมาคมการค้าส่วนใหญ่มีปัญหาเรื่องขนาดงบประมาณที่จะใช้ในการผลักดันกิจกรรมของสมาคม ครั้นจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มจากสมาชิก สมาขิกก็มักจะไม่ยินยอมให้เก็บเพิ่ม สมาคมการค้าจึงมักจะต้องใช้วิธีปรับลดกิจกรรมตามแผนงานลง ปัญหาเช่นนี้มักเกิดขึ้นกับองค์การที่ไม่หวังผลกำไรอื่นประเภทที่เน้นบทบาทของสมาชิกด้วย อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาดีๆ สมาชิกไม่ใช่แหล่งรายได้เดียวของสมาคมการค้า เมื่อจำแนกรายได้ของสมาคม จากเจ้าของเงิน เราสามารถแบ่งได้เป็น 1.สมาชิก :  สมาชิกเป็นแหล่งรายได้แรกๆที่สมาคมจะคิดถึง อย่างไรก็ตาม สมาคมสามารถได้รับรายได้จากสมาชิก ไม่เพียงแต่ในรูปแบบของค่าธรรมเนียมเท่านั้น สมาคมยังสามารถสร้างสรรค์บริการอื่นที่ตรงใจสมาชิก เพื่อรับค่าบริการเป็นการตอบแทน เช่นการอบรมเพื่อเพิ่มศักยภาพของสมาชิก, การจัดกิจกรรมเพื่อสร้างโอกาสทางการตลาดแก่สมาชิก เป็นต้น 2.ภาครัฐ :  องค์การไม่หวังผลกำไร เกิดขึ้นจากการที่รัฐบาลไม่สามารถดูแลงานภาคสังคมได้ทั่วถึง จึงเกิดการรวมตัวกันของชุมชนเข้ามาช่วยจัดการแทนภาครัฐ ดังนั้นภาครัฐจึงสนับสนุนงบประมาณและอื่นๆ เป็นการตอบแทนการทำหน้าที่แทนรัฐบาลขององค์การไม่แสวงหากำไร

เหตุผลที่ภาครัฐนิยมติดต่อกับสมาคมการค้า

จุดเริ่มต้นของสมาคมการค้าจำนวนมาก มักก่อตัวจากกการมีความสนใจหรือปัญหาร่วมกัน จึงรวมตัวกันเป็นกลุ่มเครือข่าย หรือชมรมฯ และเมื่อผ่านการทำกิจกรรมติดต่อกับภาครัฐระยะหนึ่ง กลุ่มเครื่อข่ายนั้น มักได้รับคำแนะนำจากภาครัฐ ให้ดำเนินการจัดตั้งเป็นสมาคมการค้า ในด้านหนึ่งก็เพื่อให้กลุ่มเครือข่ายนั้นมีตัวตนตามกฏหมายเป็นนิติบุคคลหนึ่งที่ภาครัฐจะติดต่อทำธุรกรรมได้เป็นกิจจะลักษณะ อย่างไรก็ตาม ยังมีเหตุผลอื่นอีก โดยเฉพาะสมาคมการค้าที่ผ่านการจัดตั้งระยะหนึ่ง มีกลไกการทำงานของตัวเองแล้ว และนี่คือเหตุผลที่ภาครัฐนิยมในการติดต่อกับสมาคมการค้า 👉 เป็นตัวแทนของหน่วยจ้างงานของประเทศ สมาคมการค้าเป็นตัวแทนของสมาชิกผู้ประกอบการ ที่เป็นหน่วยย่อยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการจ้างงานทั่วไป จึงมีผลต่อเศรษฐกิจของประเทศ ในขณะที่รัฐบาลต้องการส่งเสริมธุรกิจ ให้มีการลงทุน ให้เกิดการจ้างงาน ประชาชนมีงานทำ มีการใช้จ่าย ธุรกิจจึงจะดำเนินต่อไปได้อันเป็นที่มาของภาษีที่รัฐจัดเก็บ ภาครัฐจึงอาศัยสมาคมการค้าที่เป็นตัวแทนผู้ประกอบการ เป็นช่องทางหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจตามนโยบายของภาครัฐได้ 👉 เป็นคู่เจรจาที่น่าเชื่อถ

แนวทางในการพัฒนาสมาคมการค้า

สมาคมการค้า จัดเป็นองค์การที่ไม่หวังผลกำไร ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการประกอบการของสมาชิก อย่างไรก็ตาม คุณค่าของสมาคมการค้า มิได้มีเพียงต่อผู้ประกอบการเท่านั้น สมาคมการค้ายังมีความรับผิดชอบต่อสังคม สมาคมการค้าจึงต้องจัดสมดุลระหว่างประโยชน์ของสมาชิกและสังคมส่วนรวมด้วย เพราะสังคมส่วนรวมก็คือลูกค้าของสมาชิก คือสภาพแวดล้อม หรือระบบนิเวศน์ของการประกอบการของสมาชิก แม้ว่าสมาชิกแต่ละรายอาจมิได้คำนึงถึง แต่สมาคมการค้าต้องคิดถึงผลกระทบเหล่านี้ด้วย กรรมการสมาคมการค้า จึงต้องมองภาพใหญ่กว่าสมาชิกแต่ละราย ต้องมองให้เห็นถึงระดับมหภาค นอกจากนี้ ภาครัฐนิยมขับเคลื่อนนโยบาย หรือโครงการบางอย่างผ่านสมาคมการค้า เพราะสมาคมการค้าเป็นการรวมตัว และเป็นตัวแทนของเอกชนที่เป็นผู้ประกอบการ อย่างไรก็ตาม ในหลายๆครั้ง หลายๆโครงการที่ไม่ประสบความสำเร็จ สาเหตุหนึ่งมาจากปัญหาเรื่องความไม่เข้มแข็งของสมาคมการค้านั้น ความเข้มแข็งของสมาคมการค้า สะท้อนออกมาในรูปของการจูงใจให้สมาชิกกระทำการบางอย่าง ที่สมาชิกไม่ยอมกระทำในสถานการณ์ปกติ หากสมาคมการค้าไม่เข้มแข็งเพียงพอ ก็ไม่สามารถชักจูงสมาชิกให้ทำเรื่องยากๆ การพัฒ