ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

8 ข้อผิดพลาดของสมาคมส่วนใหญ่




1.ขาดการมุ่งเน้นพันธกิจ

เมื่อคณะกรรมการบริหาร ไม่ได้มุ่งเน้นพันธกิจของสมาคม สิ่งเลวร้ายอาจเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว อาจเป็นการพลาดโอกาส หรือที่ร้ายกว่านั้น สมาคมอาจดำเนินไปอย่างไร้จุดหมาย

สมาคมจำนวนมาก เป็นเพียงเวทีที่สังสรรค์ร่วมรับประทานอาหารกันในหมู่กรรมการ แทนที่จะให้ความสำคัญกับพันธกิจตามวัตถุประสงค์ที่ก่อตั้งสมาคมขึ้นมา เพราะสมาคมเหล่านี้ขาดการยึดโยงกิจกรรมที่ทำเข้ากับวิสัยทัศน์และพันธกิจ

การมีวิสัยทัศน์และพันธกิจของสมาคมที่ชัดเจน ยังช่วยดึงดูดและยึดโยงผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และความร่วมมือต่างๆมาสู่สมาคมอีกด้วย ทำให้สมาคมมีทรัพยากรที่จะใช้เพื่อผลักดันกิจกรรมได้

สมาคมและองค์การไม่หวังผลกำไรอื่นๆ ที่มุ่งมั่นในการพัฒนา จะให้ความสำคัญกับพันธกิจเพื่อที่จะวางยุทธศาสตร์และแผนให้สอดรับกัน

สมาคมควรหมั่นทบทวนพันธกิจของตนเอง ถามตัวเองว่ากิจกรรมที่ทำอยู่เป็นอย่างไร?  สอดคล้องกับพันธกิจของสมาคมหรือไม่?  สมาคมเราให้บริการสมาชิกได้ดีแค่ไหน?  สามารถสื่อสารถึงวิสัยทัศน์ของสมาคมออกไปได้เพียงใด?

ลองเขียนแล้วแบ่งปันวิสัยทัศน์ด้วยการสื่อสารผ่านสื่อทุกช่องทางของสมาคม เพื่อให้ทุกคนได้รับทราบและดึงดูดความร่วมมือจากองค์การที่มีพันธกิจที่สอดคล้องกัน


2. ติดหล่มในธุรกิจหรือกิจกรรมที่ไม่เหมาะสม

การทำงานเพียงสิ่งเดียว และเป็นสิ่งที่เราทำได้ดีกว่าคู่แข่งจะทำให้ได้ผลงานที่ดี

หลายสมาคม หลงเข้าไปในพื้นที่หรือกิจกรรมที่ตัวเองไม่มีความชำนาญ นั่นจะเป็นการดูดและเผาผลาญทรัพยากรของสมาคมในการทำกิจกรรมอื่นๆที่สำคัญกว่า ในบางครั้งกิจกรรมเหล่านี้อาจมีความจำเป็นต่อองค์การ กรณีเช่นนี้ แทนที่สมาคมจะทำเอง ให้ลองคิดถึงวิธีการเอาท์ซอส กระจายงานที่ไม่สำคัญ หรือไม่ถนัดออกไปภายนอก โดยเฉพาะในสิ่งที่ไม่ใช่คุณค่าหลักของสมาคม

หากมิได้ยึดโยงกับวัตถุประสงค์และยุทธศาสตร์ของสมาคม จะถูกข้อมูลและโอกาสต่างๆที่สาดซัดเข้ามา ทำให้สมาคมไขว้เขวออกจากวัตถุประสงค์ที่แท้จริง สาละวนกับการทำกิจกรรมที่ไม่สนับสนุนพันธกิจ หรือไม่คุ้มค่ากับทรัพยากรที่ต้องสูญเสียไป


3.ไม่สามารถสื่อสารประโยชน์ที่สมาชิกได้รับจากสมาคม

เมื่อสมาคมได้รับสมาชิกใหม่ การปฐมนิเทศน์เพื่อให้สมาชิกอยู่ร่วมกิจกรรมกับสมาคมไปนานๆเป็นสิ่งจำเป็น เพียงแค่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสมาคม แจ้งวัตถุประสงค์ และสิทธิประโยชน์ของสมาชิกภาพยังไม่เพียงพอ

การจูงใจที่แท้จริงอยู่ที่การเร้าอารมณ์ ทำให้สมาชิกเกิดความรู้สึกเชิงบวกกับสมาคม

เริ่มต้นด้วยการค้นหาสิ่งที่สมาชิกรู้สึกดีในการเป็นสมาชิกของสมาคม และนำสิ่งนั้นมาขยายผล


4.บริการสมาชิกแบบขอไปที

สมาคมควรส่งมอบบริการคุณภาพสูงสู่สมาขิก แม้จะว่าสมาคมจะเป็นองค์การไม่หวังผลกำไร แต่การให้บริการสมาชิกด้วยคุณภาพแบบเดียวกับที่หน่วยธุรกิจให้ความสำคัญกับลูกค้า จะทำให้สมาชิกยึดโยงกับสมาคม อยากร่วมกิจกรรมกับสมาคมไปเรื่อยๆ

สมาคมควรคิดถึงการให้บริการที่สะดวก และใช้ง่าย โดยอาจใช้เวบไซต์ที่มีความสามารถแบบปฏิสัมพันธ์ การลดขั้นตอนการต่ออายุสมาชิก การตอบคำถามสมาชิกอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นสิ่งที่ควรคำนึง

การกระตุ้นให้สมาชิกปัจจุบันร่วมกิจกรรมมากขึ้น ทำได้ง่ายกว่าการหาสมาชิกใหม่มาร่วมกิจกรรมกับสมาคม ดังนั้น หากสมาชิกมีความประทับใจสมาคมแล้ว กิจกรรมต่างๆที่สมาคมจัดขึ้น จะได้รับความร่วมมืออย่างดีจากสมาชิกปัจจุบัน



5.การตั้งราคาค่าบริการไม่เหมาะสม

เนื่องจากราคา จะเป็นสิ่งบ่งบอกเบื้องต้นของคุณค่าสินค้าหรือบริการ

ในสายตาผู้ขายหรือผู้ให้บริการ อาจมองว่าราคาเป็นสิ่งสำคัญลำดับแรก แต่ไม่ใช่เช่นนั้นเสมอไป หลายๆงานวิจัยที่พบว่า ในสายตาผู้ซื้อ ราคากลับเป็นความสำคัญลำดับสามหรือสี่ คุณค่าต่างหากที่เป็นที่หนึ่ง

การที่สมาคมตั้งราคาค่าบริการต่ำเกินไป เพราะความเป็นองค์การไม่หวังผลกำไร ทำให้ไม่ได้รับความเชื่อถือ สมาชิกจึงไม่ใช้บริการ



6.บริการฟรีแก่กลุ่มเป้าหมาย

เมื่อกลุ่มเป้าหมายสามารถใช้บริการที่ต้องการได้ฟรี ก็หมดความจำเป็นที่กลุ่มเป้าหมายของสมาคมจะต้องเสียค่าใช้จ่าย หรือสมัครเป็นสมาชิกของสมาคม

หากต้องการดึงดูดสมาชิกใหม่ๆเข้าสู่สมาคม สมาคมต้องสอบถามสมาชิกปัจจุบันถึงสาเหตุการตัดสินใจ และค้นให้พบว่า อะไรคือประโยชน์ของสมาชิก ที่สมาชิกให้ความสำคัญ

ใช้สิ่งที่ค้นพบ มาปรับยุทธศาสตร์การหาสมาชิก อาจใช้กลยุทธ์ เช่น "เฉพาะสมาชิกเท่านั่น" เพื่อกระตุ้นกลุ่มเป้าหมายที่เคยใช้บริการฟรีให้สมัครเป็นสมาชิก


7.ละเลยต่อการแข่งขัน

แม้ว่าสมาคมจะเป็นองค์การไม่หวังผลกำไร แต่การแข่งขันของสมาคมไม่ต่างจากหน่วยธุรกิจที่มุ่งทำกำไร วันใดที่สมาคมไม่สามารถตอบสนองความต้องการของสมาชิก หรือทำได้ไม่เท่ากับคู่แข่ง หรือมีสิ่งที่ทดแทนสมาคมของคุณได้ สมาชิกก็จะหนีไปจากสมาคม

ดังนั้น สมาคมจึงต้องให้ความสนใจคอยมองผู้ที่อาจเป็นคู่แข่ง เพื่อ เรียนรู้และตัดสินใจว่ามีอะไรบ้างที่สมาคมควรเปลี่ยนแปลง

สิ่งที่สมาคมต้องคอยศึกษาจากคู่แข่ง เป็นต้นว่า เขากระตุ้นให้สมัครสมาชิกอย่างไร? เขาเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างไร? การเข้าถึงเวบคู่แข่งยากง่ายกว่าเข้าเวบไซต์ของเรา

สมาคมต้องสื่อสารจุดขายที่เป็นเอกลักษณ์ของสมาคมออกไปให้ชัดเจน


8.ต่อต้านการเปลี่ยนแปลง

 การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องต้องเกิดขึ้นสำหรับองค์การที่มีฐานสมาชิกอย่างเช่นสมาคม สมาคมการค้า อีกทั้งการลดลงของงบประมาณที่สมาคม และแรงกดดันจากภายนอก ส่งผลให้สมาคม และองค์การไม่หวังผลกำไรอื่นๆต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง มิฉะนั้นก็จะถูกทิ้ง

อย่างไรก็ตาม มีแรงต่อต้านการเปลี่ยนแปลงจากภายในของทุกองค์การ ซึ่งสิ่งนี้ทำให้สมาคมไม่สามารถปรับตัวให้ทันความจำเป็น


การเรียนรู้จากประสบการณ์ สามารถทำได้ทั้งเรียนรู้จากความสำเร็จ และความล้มเหลว เพื่อที่ความล้มเหลวนั้นจะไม่เป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ของสมาคมของคุณ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

6 แหล่งรายได้ของสมาคม

สมาคมการค้าส่วนใหญ่มีปัญหาเรื่องขนาดงบประมาณที่จะใช้ในการผลักดันกิจกรรมของสมาคม ครั้นจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มจากสมาชิก สมาขิกก็มักจะไม่ยินยอมให้เก็บเพิ่ม สมาคมการค้าจึงมักจะต้องใช้วิธีปรับลดกิจกรรมตามแผนงานลง ปัญหาเช่นนี้มักเกิดขึ้นกับองค์การที่ไม่หวังผลกำไรอื่นประเภทที่เน้นบทบาทของสมาชิกด้วย อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาดีๆ สมาชิกไม่ใช่แหล่งรายได้เดียวของสมาคมการค้า เมื่อจำแนกรายได้ของสมาคม จากเจ้าของเงิน เราสามารถแบ่งได้เป็น 1.สมาชิก :  สมาชิกเป็นแหล่งรายได้แรกๆที่สมาคมจะคิดถึง อย่างไรก็ตาม สมาคมสามารถได้รับรายได้จากสมาชิก ไม่เพียงแต่ในรูปแบบของค่าธรรมเนียมเท่านั้น สมาคมยังสามารถสร้างสรรค์บริการอื่นที่ตรงใจสมาชิก เพื่อรับค่าบริการเป็นการตอบแทน เช่นการอบรมเพื่อเพิ่มศักยภาพของสมาชิก, การจัดกิจกรรมเพื่อสร้างโอกาสทางการตลาดแก่สมาชิก เป็นต้น 2.ภาครัฐ :  องค์การไม่หวังผลกำไร เกิดขึ้นจากการที่รัฐบาลไม่สามารถดูแลงานภาคสังคมได้ทั่วถึง จึงเกิดการรวมตัวกันของชุมชนเข้ามาช่วยจัดการแทนภาครัฐ ดังนั้นภาครัฐจึงสนับสนุนงบประมาณและอื่นๆ เป็นการตอบแทนการทำหน้าที่แทนรัฐบาลขององค์การไม่แสวงหากำไร

เหตุผลที่ภาครัฐนิยมติดต่อกับสมาคมการค้า

จุดเริ่มต้นของสมาคมการค้าจำนวนมาก มักก่อตัวจากกการมีความสนใจหรือปัญหาร่วมกัน จึงรวมตัวกันเป็นกลุ่มเครือข่าย หรือชมรมฯ และเมื่อผ่านการทำกิจกรรมติดต่อกับภาครัฐระยะหนึ่ง กลุ่มเครื่อข่ายนั้น มักได้รับคำแนะนำจากภาครัฐ ให้ดำเนินการจัดตั้งเป็นสมาคมการค้า ในด้านหนึ่งก็เพื่อให้กลุ่มเครือข่ายนั้นมีตัวตนตามกฏหมายเป็นนิติบุคคลหนึ่งที่ภาครัฐจะติดต่อทำธุรกรรมได้เป็นกิจจะลักษณะ อย่างไรก็ตาม ยังมีเหตุผลอื่นอีก โดยเฉพาะสมาคมการค้าที่ผ่านการจัดตั้งระยะหนึ่ง มีกลไกการทำงานของตัวเองแล้ว และนี่คือเหตุผลที่ภาครัฐนิยมในการติดต่อกับสมาคมการค้า 👉 เป็นตัวแทนของหน่วยจ้างงานของประเทศ สมาคมการค้าเป็นตัวแทนของสมาชิกผู้ประกอบการ ที่เป็นหน่วยย่อยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการจ้างงานทั่วไป จึงมีผลต่อเศรษฐกิจของประเทศ ในขณะที่รัฐบาลต้องการส่งเสริมธุรกิจ ให้มีการลงทุน ให้เกิดการจ้างงาน ประชาชนมีงานทำ มีการใช้จ่าย ธุรกิจจึงจะดำเนินต่อไปได้อันเป็นที่มาของภาษีที่รัฐจัดเก็บ ภาครัฐจึงอาศัยสมาคมการค้าที่เป็นตัวแทนผู้ประกอบการ เป็นช่องทางหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจตามนโยบายของภาครัฐได้ 👉 เป็นคู่เจรจาที่น่าเชื่อถ

แนวทางในการพัฒนาสมาคมการค้า

สมาคมการค้า จัดเป็นองค์การที่ไม่หวังผลกำไร ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการประกอบการของสมาชิก อย่างไรก็ตาม คุณค่าของสมาคมการค้า มิได้มีเพียงต่อผู้ประกอบการเท่านั้น สมาคมการค้ายังมีความรับผิดชอบต่อสังคม สมาคมการค้าจึงต้องจัดสมดุลระหว่างประโยชน์ของสมาชิกและสังคมส่วนรวมด้วย เพราะสังคมส่วนรวมก็คือลูกค้าของสมาชิก คือสภาพแวดล้อม หรือระบบนิเวศน์ของการประกอบการของสมาชิก แม้ว่าสมาชิกแต่ละรายอาจมิได้คำนึงถึง แต่สมาคมการค้าต้องคิดถึงผลกระทบเหล่านี้ด้วย กรรมการสมาคมการค้า จึงต้องมองภาพใหญ่กว่าสมาชิกแต่ละราย ต้องมองให้เห็นถึงระดับมหภาค นอกจากนี้ ภาครัฐนิยมขับเคลื่อนนโยบาย หรือโครงการบางอย่างผ่านสมาคมการค้า เพราะสมาคมการค้าเป็นการรวมตัว และเป็นตัวแทนของเอกชนที่เป็นผู้ประกอบการ อย่างไรก็ตาม ในหลายๆครั้ง หลายๆโครงการที่ไม่ประสบความสำเร็จ สาเหตุหนึ่งมาจากปัญหาเรื่องความไม่เข้มแข็งของสมาคมการค้านั้น ความเข้มแข็งของสมาคมการค้า สะท้อนออกมาในรูปของการจูงใจให้สมาชิกกระทำการบางอย่าง ที่สมาชิกไม่ยอมกระทำในสถานการณ์ปกติ หากสมาคมการค้าไม่เข้มแข็งเพียงพอ ก็ไม่สามารถชักจูงสมาชิกให้ทำเรื่องยากๆ การพัฒ