ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

แนวทางในการพัฒนาสมาคมการค้า 4 - ทำงานเชิงรุก

3.ทำงานเชิงรุก

สมาคมการค้าที่มุ่งมั่นในการพัฒนาจะมีการทำงานเชิงรุก ซึ่งทำให้มีส่วนในการกำหนดทิศทางและชี้นำอุตสาหกรรม แนวทางการทำงานเชิงรุกที่ถือเป็นวิธีปฏิบัติที่ดีของสมาคมการค้ามีดังนี้

สร้างความร่วมมือทุกระดับ ทั้งภายในอุตสาหกรรมเดียวกัน, ระหว่างอุตสาหกรรม, ระหว่างต้นน้ำถึงปลายน้ำ เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีขึ้น เพิ่มความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมนั้นของประเทศ

สร้างความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นเพื่อการส่งมอบสินค้าและบริการของอุตสาหกรรมเราให้เป็นไปอย่างทั่วถึง และมีประสิทธิภาพ

มุ่งมั่นพัฒนา ทั้งด้านคุณภาพการให้บริการ, การบริหารและควบคุมการเงิน, การฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ จัดให้มีการประกวดสมาคมการค้าดีเด่นเป็นประจำทุกปี การเข้าร่วมประกวดนี้ เป็นการเปรียบเทียบผลการทำงานของสมาคมการค้าของคุณกับสมาคมการค้าอื่น เพื่อให้รู้ว่า สิ่งที่เราทำ เมื่อเทียบกับสมาคมการค้าอื่นแล้ว จัดว่าดีเพียงใด

เคลื่อนไหวร่วมกับหน่วยงานอื่นในประเด็นที่มีความห่วงใยร่วมกัน ในระบบนิเวศน์ของแต่ละอุตสาหกรรม จะมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเสมอ ในบางครั้ง เป็นโอกาสที่สมาคมการค้าควรจะคว้าไว้ แต่ในบางครั้งอาจเป็นวิกฤต หรือเป็นประเด็นที่กังวล สมาคมการค้าควรสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นที่มีความเห็นสอดคล้องกันในการเคลื่อนไหวเพื่อแสดงออกถึงความห่วงใย และหาทางออกร่วมกัน

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

6 แหล่งรายได้ของสมาคม

สมาคมการค้าส่วนใหญ่มีปัญหาเรื่องขนาดงบประมาณที่จะใช้ในการผลักดันกิจกรรมของสมาคม ครั้นจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มจากสมาชิก สมาขิกก็มักจะไม่ยินยอมให้เก็บเพิ่ม สมาคมการค้าจึงมักจะต้องใช้วิธีปรับลดกิจกรรมตามแผนงานลง ปัญหาเช่นนี้มักเกิดขึ้นกับองค์การที่ไม่หวังผลกำไรอื่นประเภทที่เน้นบทบาทของสมาชิกด้วย อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาดีๆ สมาชิกไม่ใช่แหล่งรายได้เดียวของสมาคมการค้า เมื่อจำแนกรายได้ของสมาคม จากเจ้าของเงิน เราสามารถแบ่งได้เป็น 1.สมาชิก :  สมาชิกเป็นแหล่งรายได้แรกๆที่สมาคมจะคิดถึง อย่างไรก็ตาม สมาคมสามารถได้รับรายได้จากสมาชิก ไม่เพียงแต่ในรูปแบบของค่าธรรมเนียมเท่านั้น สมาคมยังสามารถสร้างสรรค์บริการอื่นที่ตรงใจสมาชิก เพื่อรับค่าบริการเป็นการตอบแทน เช่นการอบรมเพื่อเพิ่มศักยภาพของสมาชิก, การจัดกิจกรรมเพื่อสร้างโอกาสทางการตลาดแก่สมาชิก เป็นต้น 2.ภาครัฐ :  องค์การไม่หวังผลกำไร เกิดขึ้นจากการที่รัฐบาลไม่สามารถดูแลงานภาคสังคมได้ทั่วถึง จึงเกิดการรวมตัวกันของชุมชนเข้ามาช่วยจัดการแทนภาครัฐ ดังนั้นภาครัฐจึงสนับสนุนงบประมาณและอื่นๆ เป็นการตอบแทนการทำหน้าที่แทนรัฐบาลขององค์การไม่แสวงหากำไร

แนวทางในการพัฒนาสมาคมการค้า

สมาคมการค้า จัดเป็นองค์การที่ไม่หวังผลกำไร ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการประกอบการของสมาชิก อย่างไรก็ตาม คุณค่าของสมาคมการค้า มิได้มีเพียงต่อผู้ประกอบการเท่านั้น สมาคมการค้ายังมีความรับผิดชอบต่อสังคม สมาคมการค้าจึงต้องจัดสมดุลระหว่างประโยชน์ของสมาชิกและสังคมส่วนรวมด้วย เพราะสังคมส่วนรวมก็คือลูกค้าของสมาชิก คือสภาพแวดล้อม หรือระบบนิเวศน์ของการประกอบการของสมาชิก แม้ว่าสมาชิกแต่ละรายอาจมิได้คำนึงถึง แต่สมาคมการค้าต้องคิดถึงผลกระทบเหล่านี้ด้วย กรรมการสมาคมการค้า จึงต้องมองภาพใหญ่กว่าสมาชิกแต่ละราย ต้องมองให้เห็นถึงระดับมหภาค นอกจากนี้ ภาครัฐนิยมขับเคลื่อนนโยบาย หรือโครงการบางอย่างผ่านสมาคมการค้า เพราะสมาคมการค้าเป็นการรวมตัว และเป็นตัวแทนของเอกชนที่เป็นผู้ประกอบการ อย่างไรก็ตาม ในหลายๆครั้ง หลายๆโครงการที่ไม่ประสบความสำเร็จ สาเหตุหนึ่งมาจากปัญหาเรื่องความไม่เข้มแข็งของสมาคมการค้านั้น ความเข้มแข็งของสมาคมการค้า สะท้อนออกมาในรูปของการจูงใจให้สมาชิกกระทำการบางอย่าง ที่สมาชิกไม่ยอมกระทำในสถานการณ์ปกติ หากสมาคมการค้าไม่เข้มแข็งเพียงพอ ก็ไม่สามารถชักจูงสมาชิกให้ทำเรื่องยากๆ การพัฒ

5 ขั้นตอนการสร้างอาสาสมัครในสมาคม และองค์การไม่หวังผลกำไรอื่น

ขั้นตอนการสร้างระบบอาสาสมัครให้เกิดขึ้นภายในสมาคม และองค์การที่ไม่หวังผลกำไรอื่น ให้ประสบความสำเร็จนั้น ประกอบด้วย 5 ขั้นตอนใหญ่ ดังนี้ 1. การวางแผน ก่อนอื่น ต้องทำความเข้าใจกับความต้องการขององค์การเองก่อนว่า เรามีนโยบายอะไร เราหวังอะไรจากการมีอาสาสมัคร เมื่อเราเข้าใจตัวเองแล้ว จึงมาทำความเข้าใจกับตำแหน่งงานที่ต้องการอาสาสมัคร แล้วทำกระบวนการออกแบบงาน เพื่อให้ได้รายละเอียดของงานนั้นๆ เป็นต้นว่า จุดมุ่งหมายของงานนั้น คุณสมบัติของผู้จะทำหน้าที่นี้ ทักษะที่จำเป็น วันเวลาระยะเวลาพื้นที่การทำงาน อำนาจหน้าที่ต่างๆ คำอธิบายงาน เป็นต้น 2. การสรรหาและคัดเลือก เมื่อได้รายละเอียดต่างๆของงาน ก็จะนำไปสู่ขั้นต่อไป คือการทำความเข้าใจกับกลุ่มผู้มีคุณสมบัติเป็นอาสาสมัคร เป็นต้นว่า เขามุ่งหวังอะไร อะไรเป็นเหตุจูงใจให้เขามาเป็นอาสาสมัคร จะสื่อสารกับพวกเขาได้อย่างไร จากนั้นก็สื่อสารออกไปเชิญชวนให้มาสมัคร เพื่อที่สมาคมจะได้คัดเลือกผู้ที่มีคุณสมบัติตรงกับรายละเอียดของตำแหน่งที่ได้ทำไว้ในข้อหนึ่ง 3. ปฐมนิเทศน์และฝึกอบรม เมื่อได้อาสาสมัครตามที่วางแผนไว้แล