ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

2 โมเดลธุรกิจของหน่วยงานไม่หวังผลกำไร

หน่วยงานไม่หวังผลกำไรนี้ หมายถึงหน่วยงานไม่ว่าจะจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล เช่น มูลนิธิ, สมาคม, สหกรณ์, สมาพันธ์, สภา  หรือไม่ได้จดทะเบียนหากแต่มีการดำเนินกิจกรรมเพื่อส่วนรวม เช่น กองทุน, กลุ่มวิสาหกิจชุมชน หรือแม้แต่ที่เพิ่งเกิดขึ้นอย่างชุมชนท่องเที่ยวหมู่บ้านนวัตวิถีก็ตาม

หน่วยงานเหล่านี้มีความเหมือนกันคือ มิได้ก่อตั้งขึ้นเพื่อสร้างผลกำไรมาแบ่งปันกัน แต่มีวัตถุประสงค์ของตัวเองโดยเฉพาะ เช่น

สมาคมการค้า ตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมการประกอบการของสมาชิก,
มูลนิธิตั้งขึ้นเพื่อการกุศลสาธารณะ การศาสนา ศิลปะ วิทยาศาสตร์ วรรณคดี การศึกษา หรือเพื่อสาธารณะประโยชน์อย่างอื่น
สมาคมกีฬา ตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมการกีฬา
สมาคมวิชาชีพ ตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมวิชาชีพ
หมู่บ้านนวัตวิถี ตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในชุมชน
เหล่านี้ เป็นต้น

วัตถุปรสงค์เหล่านี้ เป็นงานหลักที่ต้องนำมาใช้ในการสร้างโมเดลธุรกิจของหน่วยงานไม่หวังผลกำไร อย่างไรก็ตาม หน่วยงานไม่หวังผลกำไรจะไม่สามารถขับเคลื่อนกิจกรรมตามวัตถุประสงค์ได้ หรือไปได้ไม่ไกลนัก หากไม่สามารถตอบโจทย์ได้ว่า จะใช้ทุนจากไหนในการดำเนินกิจกรรมเหล่านี้

ด้วยเหตุนี้ หน่วยงานไม่หวังผลกำไร จึงต้องมีโมเดลธุรกิจย่อย อย่างน้อยสองโมเดลธุรกิจ โมเดลธุรกิจแรกคือ โมเดลธุรกิจตามวัตถุประสงค์ของหน่วยงาน ดังที่กล่าวมาแล้ว

ส่วนโมเดลธุรกิจที่สองคือ โมเดลธุรกิจเพื่อตอบคำถามว่า จะหาเงินจากไหนมาขับเคลื่อนกิจกรรมตามโมเดลธุรกิจแรก

สองโมเดลนี้ต้องมีอยู่ในโมเดลธุรกิจใหญ่ของทุกหน่วยงานที่ไม่หวังผลกำไร หากหวังจะขับเคลื่อนกิจกรรมให้บรรลุตามวัตถุประสงค์

นี่เป็นความแตกต่างจากหน่วยงานที่หวังผลกำไร ที่มีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนคือ หากำไร จึงมักมีโมเดลหลักเพียงโมเดลเดียวคือ การสร้างผลกำไร

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

6 แหล่งรายได้ของสมาคม

สมาคมการค้าส่วนใหญ่มีปัญหาเรื่องขนาดงบประมาณที่จะใช้ในการผลักดันกิจกรรมของสมาคม ครั้นจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มจากสมาชิก สมาขิกก็มักจะไม่ยินยอมให้เก็บเพิ่ม สมาคมการค้าจึงมักจะต้องใช้วิธีปรับลดกิจกรรมตามแผนงานลง ปัญหาเช่นนี้มักเกิดขึ้นกับองค์การที่ไม่หวังผลกำไรอื่นประเภทที่เน้นบทบาทของสมาชิกด้วย อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาดีๆ สมาชิกไม่ใช่แหล่งรายได้เดียวของสมาคมการค้า เมื่อจำแนกรายได้ของสมาคม จากเจ้าของเงิน เราสามารถแบ่งได้เป็น 1.สมาชิก :  สมาชิกเป็นแหล่งรายได้แรกๆที่สมาคมจะคิดถึง อย่างไรก็ตาม สมาคมสามารถได้รับรายได้จากสมาชิก ไม่เพียงแต่ในรูปแบบของค่าธรรมเนียมเท่านั้น สมาคมยังสามารถสร้างสรรค์บริการอื่นที่ตรงใจสมาชิก เพื่อรับค่าบริการเป็นการตอบแทน เช่นการอบรมเพื่อเพิ่มศักยภาพของสมาชิก, การจัดกิจกรรมเพื่อสร้างโอกาสทางการตลาดแก่สมาชิก เป็นต้น 2.ภาครัฐ :  องค์การไม่หวังผลกำไร เกิดขึ้นจากการที่รัฐบาลไม่สามารถดูแลงานภาคสังคมได้ทั่วถึง จึงเกิดการรวมตัวกันของชุมชนเข้ามาช่วยจัดการแทนภาครัฐ ดังนั้นภาครัฐจึงสนับสนุนงบประมาณและอื่นๆ เป็นการตอบแทนการทำหน้าที่แทนรัฐบาลขององค์การไม่แสวงหากำไร

5 เหตุผลที่สมาคมการค้าต้องทำโมเดลธุรกิจของตัวเอง

สมาคมการค้า เป็นที่รวมของผู้ประกอบการในธุรกิจเดียวกันหรือใกล้เคียงกัน เพื่อสร้างความร่วมมือ โดยหวังผลจากพลังผนึกที่ให้ผลหนึ่งบวกหนึ่งที่มากกว่าสอง แต่ในความเป็นจริงอาจไม่เป็นเหมือนดังที่คิด หลายๆสมาคมอาจกลายเป็นเพียงกลุ่มสังสรรค์นัดรับประทานอาหารกันตามโอกาส หรือแม้แต่กระทั่ง การดำเนินกิจกรรมของบางสมาคมการค้าที่เหมือนจะแข่งกับธุรกิจของสมาชิกโดยตรง การทำโมเดลธุรกิจ เป็นคำตอบที่ช่วยให้สมาคมได้ทบทวนสิ่งที่กำลังทำอยู่ 👉 โมเดลธุรกิจคืออะไร ? โมเดลธุรกิจ คือโครงสร้างหรือแนวทางการทำงานของสมาคม ซึ่งในโมเดลธุรกิจจะบอกว่าสมาคมของคุณจะทำอะไร ให้กับใคร อย่างไร ด้วยทรัพยากรหรือความสามารถอะไร หลายๆหน่วยงานอาจจะคุ้นเคยกับแผนธุรกิจหรือแผนงานที่อาจมีการเปลี่ยนแผนบ่อยๆ แต่โมเดลธุรกิจของแต่ละหน่วยงานจะไม่เปลี่ยนโดยง่าย 👉 5 เหตุผลที่สมาคมการค้าต้องทำโมเดลธุรกิจของตัวเอง 1. ถ้าไม่ตอบสนองความต้องการของสมาชิก สมาคมจะสูญเสียฐานค้ำยัน ทุกสมาคมการค้า มีสมาชิกเป็นรากฐานสำคัญที่ค้ำยันความจำเป็นของการมีสมาคมการค้านั้นๆ และสมาชิกก็หวังความช่วยเหลือหรือประโยชน์บางอย่างจากสมาคมการค้านั้น หากสมาคมไม่สามาร

Funding Model เพื่อการบริหารชุมชนท่องเที่ยวนวัตวิถีอย่างยั่งยืน

นวัตวิถีคือโครงการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้เกิดรายได้กับชุมชน โดยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างทั่วถึง กระตุ้นเศรษฐกิจและสังคมภายในประเทศให้มีความเข้มแข็ง เป็นโครงการที่ผนวกโครงการ OTOP เข้ากับการท่องเที่ยว โดยสร้างเส้นทางการท่องเที่ยวเมืองรองขึ้น แล้วส่งนักท่องเที่ยวเข้าชุมชน แทนที่จะดึงวิสาหกิจออกจากชุมชนสู่เมืองอย่างที่โอท็อปเคยทำด้วยการจัดงานแฟร์ แล้วให้สินค้าชุมชนต่างๆเหล่านี้มาออกร้านขายของปีละสามสี่เดือน ส่วนที่เหลืออีกปีละแปดเก้าเดือน ก็เคว้ง ว่างงาน กับวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป งานของโครงการชุมชนท่องเที่ยวนวัตวิถี เริ่มตั้งแต่การค้นหาจุดเด่นของชุมชน ดึงมาพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว สร้างเรื่องราว เรื่องเล่า ผสานกับการให้ความรู้กับชุมชนในการสร้างรายรับจากนักท่องเที่ยวที่เข้าสู่ชุมชน นวัตวิถี จึงเป็นโครงการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน ภายใต้วิถีชีวิตปกติของชุมชนเอง อย่างไรก็ตาม หากต้องการทำให้โครงการมีความยั่งยืน ต้องมีการจัดการเพื่อให้การบริหารโครงการมีความต่อเนื่อง จำเป็นต้องมีการบำรุงรักษาและพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว การรักษาความสะอาด การรักษาความปลอดภัย การพัฒนาสินค้าและบริการให้มีความว้าว